พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ส่วนกลางคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด ผู้มีจิตศรัทธานักเรียนทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ และสื่อ ...
ข้าพเจ้ามีความยินดีที่มีโอกำสได้พบกับกรรมการบริหารของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ และท่านทั้งหลายที่ได้ช่วยในกิจการของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ มีประวัติและกิจการดังรายงานของท่านประธานกรรมการบริหารไม่ต้องที่จะพูดมากในเรื่องนี้ แต่ขอสรุปว่ามูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ครั้งที่มีวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก เมื่อยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีมาแล้ว ซึ่งทำให้เกิดความเดือดร้อนและทำให้ประชาชนทั่วประเทศได้มีความรู้สึกว่าจะต้องช่วยเหลือ จึงมีผู้ที่ได้บริจาคเงินหลั่งไหลเข้ามา และได้นำไปใช้เพื่อสงเคราะห์ผู้ที่ประสบวาตภัยในครั้งนั้น ต่อมาก็ได้ใช้เงินที่ยังเหลือจากการบริจาคตั้งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ขึ้น ด้วยความประสงค์ที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติโดยฉับพลัน ซึ่งทำงราชการก็มีหน่วยงานอยู่แล้วที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่เห็นว่าประชาชนทั่วๆ ไป เมื่อทราบว่าเพื่อนร่วมชาติได้รับความเดือดร้อนก็อยากจะช่วยด้วย ฉะนั้น จะต้องตั้งโครงการอย่างหนึ่งซึ่งไม่ใช่เป็นทำงราชการ เพื่อที่จะประสานน้ำใจเมตตาปรานีของคนทั่วประเทศ ได้ตั้งมูลนิธิขึ้นมาและได้ปฏิบัติดังนี้ คือเมื่อมีภัยธรรมชาติใดๆ เกิดขึ้น มีเจ้าหน้ำที่ของมูลนิธิเข้าไปช่วยเลย ทำให้งานรวดเร็วและไม่บกพร่อง
สำหรับการนี้ก็ได้รับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประชาสงเคราะห์ และหน่วยของทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่ได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลืองานส่วนมากก็เป็นงานนอกเหนือจากงานปกติของตัว และมูลนิธิก็ได้ตั้งหน่วยอาสาสมัคร เพื่อที่จะไปประสานงานให้ดี ทำให้การรับความช่วยเหลือนั้นรวดเร็วขึ้น ต่อมา ก็ได้ตั้งกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด ก็เป็นเจ้าหน้ำที่จังหวัดนั้นเอง คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ได้มอบเงินให้สามารถที่จะดำเนินงานไปโดยไม่ต้องคอยรับคำอนุมัติจากที่ไหน ทันใดที่มีเหตุเกิดขึ้น ทำให้การช่วยเหลือสะดวกและคล่องแคล่วขึ้น ต่อมากรรมการจังหวัดนั้น ก็ได้รับเงินจากมูลนิธิส่วนกลาง และได้ตั้งกองทุนของตัวเพื่อที่จะปฏิบัติในเขตจังหวัด ก็ได้ผลดี เพราะว่าประชาชนได้รับความช่วยเหลือคล่องแคล่วและรวดเร็วการให้ความช่วยเหลือรวดเร็วนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และก็ได้เห็นผล โดยที่มีบุคคลหนึ่งที่ได้ประสบอัคคีภัย แล้วก็ได้มาพบประมาณ ๖ เดือน ภายหลัง เขาบอกว่าเมื่อประสบอัคคีภัยนั้น เขารู้สึกหมดหวัง เพราะว่าเสียบ้านที่อยู่และที่ทำมาหากิน หมดหวังที่จะมีชีวิตต่อไป แต่ทันใดในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้ำที่มูลนิธิไปให้อาหาร และต่อมาก็ได้ให้สิ่งของอุปกรณ์ที่จะมีชีวิตอยู่ได้ต่อไป เขาบอกว่าตอนที่เขามาพูดเขาบอกว่าเขาสบายแล้ว ฟื้นตัวมาได้ และเขาก็บอกว่าอาหารและสิ่งของที่ได้รับนั้นไม่ได้คุ้มหรือไม่ได้ช่วยทั้งหมด เพราะว่าเป็นจำนวนถ้านับเป็นเงินก็ไม่มากเขาพูดอย่างนี้ไม่ใช่ในเชิงตำหนิ แต่ในเชิงที่ทำให้เขาชื่นชมเพราะว่าแม้จะให้ไม่คุ้มกับที่ได้เสีย แต่ว่าสามารถที่จะให้กำลังใจที่จะสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ให้ดี และบางกรณีก็ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญ เขาก็มาพูดว่าถ้าหากได้รับทันที ความท้อใจนั้นไม่เกิดขึ้น ถ้าเกิดความท้อใจแล้วทำงานทำการไม่ได้ ฉะนั้น สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ก็คือให้ได้ไปถึงทันท่วงที และไปให้กำลังใจให้ผู้ที่ประสบภัยนั้นสามารถที่จะตั้งตัวขึ้นมาด้วยกำลังของตัว ด้วยความสามารถของตัวได้รับความช่วยเหลือส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งก็เป็นความช่วยเหลือทำงกำลังใจ อันนี้ ก็เป็นข้อสำคัญฉะนั้น การที่มูลนิธิสามารถที่จะปฏิบัติงานนั้น ได้ช่วยประชาชนผู้ได้ประสบภัยธรรมชาติมากกว่ามูลค่าของเงินที่ได้กล่าวในรายงาน ไม่ใช่เก้าสิบล้านหรือร้อยล้าน แต่เป็นเงินที่จะนับไม่ถ้วนเลยอีกข้อหนึ่ง ที่ได้กล่าวในรายงานนั้น ก็คือ เรื่องของการศึกษา การศึกษานั้นเริ่มต้นตั้งแต่
โรงเรียนที่ได้ตั้ง และทุนการศึกษาที่ได้ตั้งในครั้งวาตภัยแหลมตะลุมพุกนั้นเอง ทำงมูลนิธิเห็นว่าการช่วยเหลือแบ่งเป็นส่วนๆ
ส่วนแรก ก็คือ การช่วยเหลือฉับพลันตามที่กล่าวแล้ว
ส่วนที่ ๒ ก็เป็นการที่จะให้ประชาชนสามารถที่จะทำมาหากิน คือช่วยในด้านอาชีพโดยเฉพาะอาชีพการทำสวน ทำนำ ทำไร่ ให้เขาสามารถที่จะปฏิบัติงานได้ และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำมาหากินทั้งหลาย
ส่วนที่ ๓ ก็คือ การศึกษา ผู้ที่ประสบภัยโดยเฉพาะพวกเด็กๆ ได้สูญเสียทั้งโรงเรียน ทั้งผู้อุปการะ ฉะนั้นได้ตั้งนโยบายที่จะช่วยเด็กที่เป็นกำพร้าจากภัยธรรมชาติเหล่านั้น เลยตั้งโรงเรียนและได้อุปการะเด็กให้มีที่เรียน และมีผู้ปกครองก็คือมูลนิธิ ให้สามารถที่จะเรียนตั้งแต่ชั้นเล็กๆ จนกระทั่งจบโรงเรียนชั้นมัธยม มีบางรายได้สนับสนุนจนกระทั่งถึงขั้นอุดมศึกษาและเลยต่อไปก็ได้ผลของกิจการนี้ ก็คือ มีผู้ที่สำเร็จการศึกษา และมาอาสาทำงานให้มูลนิธิ เมื่อเกิดอุทกภัยและภัยธรรมชาติในภาคใต้ ต่อมา ก็ได้อาสาไปช่วยเพื่อนที่ได้รับภัยธรรมชาติ ฉะนั้น ที่ได้ช่วยเด็กที่ไม่มีที่พึ่ง ให้มีที่พึ่งและอบรมให้มีความรู้ เขาก็สามารถที่จะไปใช้ความรู้และกำลังใจที่ได้รับไปช่วยเพื่อนที่กำลังประสบภัยธรรมชาติ สำหรับในคราวหลังๆ นี้ก็มีภัยธรรมชาติที่รุนแรง ก็เลยได้ทำตามนโยบายเดิมนี้ตั้งโรงเรียนและตั้งทุนการศึกษา โรงเรียนนั้นก็มีที่อื่นด้วยทำงภาคเหนือทำงภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็มีเหมือนกัน
การที่ผู้ที่ได้นำเงินมาสมทบในมูลนิธินี้ จึงมีส่วนอย่างสำคัญในการที่มูลนิธิจะสามารถปฏิบัติงานต่อไป เราถือว่ามูลนิธินี้คล้ายๆ เป็นธนำคำร คือว่าคนไหนที่ยังอยู่ดีมีฐานะดีแล้วก็อยากที่จะทำบุญสะสมเงิน ก็เท่ากับเอาเงินมาใส่ธนำคำร ถ้าหากว่าวันไหนได้ประสบภัยมูลนิธิอาจไปช่วยได้ อันนี้เป็นหลัก ทุกคนที่มีความสุขปัจจุบันนี้ก็เท่ากับเก็บออมเอาไว้ สำหรับเมื่อมีความทุกข์ก็จะมีการบรรเทำทุกข์ได้ อันนี้ก็เป็นหลักของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ อันชื่อว่าเป็นการอนุเคราะห์ ซึ่งกันและกันแล้ว เจ้าหน้ำที่ที่ปฏิบัติตั้งแต่กรรมการบริหารไปถึงกรรมการฝ่ายต่างๆ และอาสาสมัครต่างๆ ก็มีทั้งกำลังใจ ทั้งกำลังทรัพย์ที่จะปฏิบัติหน้ำที่ ตามหน้ำที่ที่ได้ตั้งไว้กับฉัน ฉะนั้น ที่กรรมการบริหารได้มาในวันนี้ และท่านผู้ได้บริจาคเงินช่วยเหลือในกิจการก็ขอให้ได้รับความขอบใจจากมูลนิธิเพราะว่ามูลนิธิสามารถที่จะปฏิบัติตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ตั้งแต่ต้น ก็ขอขอบใจทั้งผู้เป็นกรรมการและเจ้าหน้ำที่ของมูลนิธิ ที่ทำงานด้วยความเข้มแข็งด้วยความเสียสละ และขอขอบใจท่านผู้ที่สนใจและบริจาคทรัพย์เพื่อสนับสนุนกิจการ ทำให้มูลนิธินี้สามารถที่จะทำไปตามเป้าหมาย คือความสุขความปลอดภัยของประชาชนในประเทศ
ก็ขอให้การที่ท่านได้ทำงานและบริจาคทรัพย์เช่นนี้ เป็นผลให้ท่านทุกคนได้รับความสำเร็จในงานการใดๆ ที่กำลังทำ ให้ประสบความสุข ความสบาย ความรุ่งเรือง และความสำเร็จทุกประการ.
พระราชทานแก่คณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ส่วนกลางคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด ผู้มีจิตศรัทธานักเรียนทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ และสื่อมวลชน