พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ส่วนกลางคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด ผู้มีจิตศรัทธานักเรียนทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ และสื่ ...
ก่อนอื่นขอขอบใจผู้ที่ได้บริจำคทรัพย์ เพื่อที่จะสนับสนุนกิจการของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ซึ่งได้อาศัยการบริจำคของทุกท่านเพื่อที่ดำเนินกิจการสำหรับบรรเทำทุกข์แก่ผู้ที่ประสบภัยธรรมชาตินอกจากนี้ก็ต้องขอโอกาสขอบใจเจ้าหน้าที่ทั้งหลำยที่ได้ทำงานด้วยความเข้มแข็ง
ตั้งแต่วาระเริ่มแรกของมูลนิธิเป็นเวลาถึง ๓๐ ปี หลำยท่านก็ได้ทำตั้งแต่ต้นด้วยความเข้มแข็งไม่ย่อท้อ ซึ่งทำให้กิจการบรรเทำสำธารณภัยแก่ประชาชนที่ประสบเคราะห์ร้ายได้ดำเนินไปด้วยดี การตั้งมูลนิธิราชประชา-นุเคราะห์ฯ ก็ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่เป็นภัยธรรมชาติที่สำคัญประมาณ ๑๐ เดือนก่อนการตั้งมูลนิธิหมายความว่าได้ใช้เวลา ๑๐ เดือน คิดอ่านจะตั้งมูลนิธิในเวลานั้น ๑๐ เดือนนั้น ก็ได้ปฏิบัติการ
สงเคราะห์ผู้ที่ประสบภัยธรรมชาติที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติครั้งสำคัญและทำให้ประชาชนทั่วประเทศได้ตื่นตัวขึ้นมาว่า ผู้ที่อยู่ในประเทศไทยนี้มีทั้งคนที่มีความสุขและมีความทุกข์ เมื่อมีความทุกข์ทุกคนย่อมต้องการที่จะให้มีคนเห็นใจ มีคนช่วยเหลือให้สำมารถที่จะฟื้นฟูชีวิต ซึ่งประสบเคราะห์ร้าย ฉะนั้น ครั้งนั้นมีการรณรงค์การให้คนช่วยเหลือ ทั้งด้วยทรัพย์ ทั้งด้วยสิ่งของ ทั้งด้วยบริการ คือการไปช่วยเหลือด้วยตนเอง ซึ่งทำให้เห็นว่าถ้าหากว่าใครประสบความเคราะห์ร้ายได้รับการช่วยเหลือโดยเร็ว ทำให้ฟื้นฟูขึ้นมาได้เร็ว ทำให้มีกำลังใจที่จะทำงานทำการ เพราะเหตุว่าที่ได้เห็นมาก่อนคนที่ประสบเคราะห์ร้ายและไม่ได้รับการช่วยเหลือบางคนก็หมดหวัง แม้จะชีวิตยังอยู่แต่ก็ชีวิตอยู่อย่างไม่ดีคืออย่างไม่ก้าวหน้าแล้วก็ล่มจมลงไป ทำให้ตายเร็วในที่สุด การที่ครั้งนั้นมีการช่วยเหลือ ก็นับว่าเป็นปฐมฤกษ์ของการช่วยเหลือของประชาชนที่รับเคราะห์ร้าย โดยผู้ที่อยู่ที่อื่นที่ยังมีความสุขได้มาช่วยเหลือ ทำให้ผู้ที่เคราะห์ร้ายนั้นมีกำลังใจและฟื้นฟูได้โดยเร็ว ในข้อนี้เคยได้พบคนหนึ่งที่ประสบภัยอัคคีภัย และมาพบประมาณ ๖ เดือน ภายหลัง เขามาบอกว่าขอขอบใจที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯได้ไปช่วย เพราะว่าในวันที่เขาประสบอัคคีภัยนั้น เขาหมดหวังทุกอย่าง เขารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างถล่มลงมา ชีวิตไม่มีความหมายชีวิตจะไม่มีทำงที่จะฟื้นฟูขึ้นไป แต่หากว่าภายใน ๒ ชั่วโมง ก็ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งคนคนนั้นเขาบอกว่า การช่วยเหลือนั้นนะก็ไม่ใช่ว่าเป็นการช่วยเหลือมากมายนักแต่ว่ามีความหมายมากมายทำให้เขามีกำลังใจ ที่ทราบว่าในยามทุกข์มีคนอื่นมาช่วยอย่างน้อยที่สุดก็มีอาหารใส่ท้อง แล้วก็มีสิ่งของที่จะมาใช้ในชีวิตในวันนั้น และวันรุ่งขึ้น และวันต่อๆ ไป และเขาก็แจ้ง
ว่าบัดนี้ หมายความว่า ๖ เดือนหลังจากที่เขาประสบเคราะห์ร้ายนั้นเขาได้ฟื้นฟูตัวเองแล้ว มีชีวิตที่ปกติสุข และเขาก็ได้มีข้อสังเกตว่าสิ่งของที่ได้รับในวันนั้นมิได้เป็นจำนวนหรือมูลค่าที่คุ้มกับที่เขาเสีย แต่ที่คุ้มที่เขาเสียก็คือกำลังใจ ฉะนั้นงานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นั้น ก็แสดงให้เห็นว่ามิใช่ว่าเราไปช่วยเขาให้คุ้มที่เขาเสียในทำงวัตถุ แต่หากว่าคุ้มในทำงจิตใจ ยิ่งกว่าคุ้ม ทำให้เขาฟื้นฟูตัวเองชีวิตของตัวเองขึ้นมาได้ อันนี้ก็เป็นข้อสำคัญของมูลนิธิ เป็นหน้าที่สำคัญของมูลนิธิราชประชา-นุเคราะห์ฯ แต่ก่อนนี้ ก่อนมีมูลนิธิก็มีหน่วยทั้งราชการ ทั้งเอกชน ได้ช่วยผู้ประสบภัย แต่ว่าความต่อเนื่องหรือการเกี่ยวโยงกันไม่ได้มีดีนัก มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เน้นในทำงที่จะให้ทุกคนที่จะช่วยมีความเกี่ยวโยงกันและช่วยกันเป็นปึกแผ่น จึงตั้งมูลนิธิฯ ขึ้น ซึ่งเอาตัวอย่างมา ได้ศึกษาตัวอย่างมาจากต่างประเทศเหมือนกันในประเทศที่เขามีสำธารณภัยบ่อยๆ เขาก็มีองค์กรที่ช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยและมาตั้งมูลนิธิ และพัฒนาวิธีใช้วิธีช่วยเหลือขึ้นไปอีก วิธีช่วยเหลือของมูลนิธิในเบื้องต้นก็ต้องส่งสิ่งของที่ต้องใช้ด่วนที่สุดโดยเฉพาะอาหาร และสิ่งใช้ในครัวเรือนไปแจกเพื่อที่จะให้ผู้ที่ประสบภัยนั้นมีชีวิตปกติได้แต่เบื้องต้น ต่อมาก็จะต้องมีการฟื้นฟูชีวิตคือจะต้องสร้าง เช่น สร้างบ้าน หรือสนับสนุนในการทำมาหากิน และสิ่งที่สำคัญก็ได้ทำตั้งแต่ต้น คือ เรื่องของการศึกษาของผู้ที่ประสบภัย และโดยเฉพาะการศึกษาของผู้ที่สูญเสีย ผู้ที่เป็นผู้อุปการะ ผู้ที่เป็นที่พึ่ง จึงได้ตั้งโรงเรียนให้ผู้ที่ไม่มีผู้อุปการะได้เป็นที่พึ่ง คือ ทำให้เด็กเหล่านั้นมีทำงที่จะเรียนหาความรู้เพื่อที่จะฟื้นฟูชีวิตของตัวเองและสร้างชีวิตอนาคต ซึ่งก็ดีใจได้ผลดีเพราะว่า โรงเรียนที่ได้ตั้ง มีผลทำให้ผู้ที่ประสบภัยและไม่มีที่พึ่งได้มีที่พึ่ง ซึ่งโรงเรียนเหล่านั้นก็ได้สร้างเป็นลำดับมา ก็ตามที่ประธานกรรมการบริหารได้รายงานซึ่งก็เป็นสิ่งสำคัญส่วนสำคัญของการงานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ตั้งแต่วาระนั้นที่ตั้งมูลนิธิก็ได้มีวิวัฒนาการของมูลนิธิมาตลอดจนกระทั่งบัดนี้ก็ท่านทั้งหลำยที่มา ก็เป็นผู้ที่ได้สนับสนุนมูลนิธิ
ด้วยการเงิน และสนับสนุนมาด้วยแรงของแต่ละท่าน และโดยเฉพาะให้เห็นว่ามูลนิธิแพร่ออกไปทั่วประเทศ ตอนแรกมูลนิธินี้ได้เริ่มงานจากกรุงเทพฯ คือ ถ้ามีเหตุการณ์ใดๆ ก็ได้ส่งสิ่งของและส่งบุคลำกรไปจากกรุงเทพฯ อย่างที่เคยทำ แต่ก่อนนี้ เมื่อไม่มีมูลนิธิ แต่ต่อมาก็ได้ตั้งกรรมการมูลนิธิในจังหวัดต่างๆ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดหรือเรียกว่าเจ้าเมือง หรือพ่อเมือง ได้เป็นตัวกลไกสำคัญในการดำเนินกิจการสงเคราะห์ผู้ประสบภัย และแต่ละจังหวัดก็มีทุนที่ทำงส่วนกลำงได้มอบไว้เพื่อที่จะใช้ในโอกาสที่จะด่วน ที่จะต้องรีบทำ รีบช่วย และต่อมาแต่ละจังหวัดก็มีกรรมการมูลนิธิราชประชา-นุเคราะห์ส่วนจังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บริหาร ฉะนั้น กิจการทั้งหลำยที่ได้ดำเนินมาก็เท่ากับได้ขยายออกไปทั่วประเทศ ทำให้งานของงานราชประชานุเคราะห์ได้มีประสิทธิภาพสูง และกิจการในด้านสงเคราะห์เบื้องต้น ก็ได้ทำให้เร็ว รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมได้รับความช่วยเหลือทั้งทำงวัตถุ ทั้งทำงจิตใจอย่างฉับพลัน ทำให้ผู้ที่เดือดร้อนหายเดือดร้อนลงไปโดยเร็วส่วนกิจการฟื้นฟูในด้านอาชีพ ทำงจังหวัดก็สำมารถที่จะดูแลได้โดยใกล้ชิดและเมื่อมีความจำเป็น ถ้ามีค่าใช้จ่ายอะไรก็สำมารถที่จะออกค่าใช้จ่าย ทั้งนี้งานของมูลนิธิก็เป็นการเสริมงานของหน่วยราชการต่างๆ ทั้งทำงฝ่ายปกครอง ทั้งนี้งานของมูลนิธิก็เป็นการเสริมงานของหน่วยราชการต่างๆ ทั้งทำงฝ่ายปกครอง ทั้งทำงฝ่ายอื่นที่มีหน้าที่ที่จะช่วยให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ทั้งทหาร ทั้งพลเรือน ฉะนั้นทุกฝ่ายที่ได้ร่วมมือกันก็สำมารถที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ ก็มีฝ่ายเอกชน
ฝ่ายกองทุนต่างๆ มูลนิธิต่างๆ ก็ได้ร่วมมืออย่างดี ส่วนสำคัญที่ได้ทำตั้งแต่ต้นที่กล่าวมาเมื่อตะกี้ว่าได้ตั้งโรงเรียนสำหรับผู้ที่ประสบภัยและขาดผู้อุปการะก็ได้ขยายขึ้นไปทั่วประเทศ และเช่นเดียวกันกับกิจการอื่นๆ ซึ่งมูลนิธิฝ่ายจังหวัดได้ดูแลกิจการเกี่ยวข้องกับการศึกษา ทำงฝ่ายมูลนิธิจังหวัดก็ได้ดูแล และเจ้าเมืองหรือพ่อเมืองก็กลำยเป็นผู้อุปการะนักเรียนที่ขาดผู้อุปการะทำให้นักเรียนเหล่านั้นมีความอบอุ่นใจ และสำมารถที่จะสร้างตัว คือหาความรู้ใส่ตัว และก็เห็นได้ว่านักเรียนเหล่านั้นมีความสบายใจมีกำลังใจอย่างดีจึงได้เรียนดี ตามรายงานที่ได้ทราบนักเรียนทุนของมูลนิธิราชประชา-นุเคราะห์ฯ เป็นผู้ที่เรียนดี มีผลการเรียนที่ยอดเยี่ยม สำมารถที่จะเรียนได้ผลถึงขั้นสูงเป็นที่ยินดีมาก เพราะว่านักเรียนเหล่านี้เมื่อเรียนเสร็จแล้วก็กลับมาช่วย เป็นคนที่เอื้อเฟื้อ เป็นคนที่ดี เป็นคนที่เอื้อเฟื้อกับผู้อื่น เพราะเข้าใจถึงความเดือดร้อนที่คนอื่นจะได้รับเมื่อมีภัยธรรมชาติจึงได้เป็นผู้ที่มาช่วยในกิจการของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ด้วย ฉะนั้น การที่ทุกคนทั้งผู้บริจำค ทั้งผู้ปฏิบัติงานทั้งผู้ที่เป็นอาสำสมัคร ที่ได้ทำงาน ที่ได้ช่วยมูลนิธิตั้งแต่ต้นเป็นเวลา ๓๐ ปีแล้ว ก็ควรจะภูมิใจว่ามีผลดีงานที่ได้ทำ เงินที่ได้บริจำคได้เป็นประโยชน์แท้จริง ทำให้ผู้ที่ประสบความเคราะห์ร้าย สำมารถที่จะฟื้นฟูตัวเอง และยิ่งกว่านี้ทำให้คนทั้งหลำย ทั้งคนไทยด้วยกัน ทั้งชาวต่างประเทศ ได้เห็นว่าคนไทยนี้มีคุณธรรมที่มองความทุกข์ไม่ได้ คือมองแล้วต้องการที่จะช่วยบรรเทำทุกข์แก่ผู้ที่ทุกข์ลำบากฉะนั้นเป็นคุณสมบัติที่เกิดขึ้น และได้เพาะขึ้น ทั้งได้เกื้อกูลให้ ให้ย่ิงใหญ่ขึ้นมาของผู้ที่มีความเมตตาซึ่งกันและกัน ซึ่งคุณสมบัตินี้จะทำให้ประชาชนคนไทยและประเทศสำมารถที่ยืนตัวได้อย่างมั่นคงตลอดต่อไป เป็นอันว่ามูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นี้ และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ช่วยในกิจการของมูลนิธิ
มีประโยชน์อย่างยิ่ง มิใช่เฉพาะสำหรับบรรเทำทุกข์ของคนที่ทุกข์ แต่ว่าเป็นผู้สร้างจิตใจของคนทั้งประเทศให้มีความเมตตาอย่างแท้จริง และมีกำลังใจที่จะรักษาจิตใจที่เมตตานี้ต่อไปฉะนั้น ทุกคนควรจะพอใจและภูมิใจที่ได้สร้างจิตใจและรักษาจิตใจนี้สำหรับประเทศ ซึ่งจิตใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการอยู่ดีกินดี ในความปลอดภัยของประเทศชาติ ฉะนั้น การที่ท่านทั้งหลำยได้มาฉลองกันว่า มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้ทำงานมาเป็นเวลา ๓๐ ปีแล้ว ก็ควรจะระลึกถึงความดี ก็เป็นความดีของตนเองนี้ ทุกฝ่ายก็ได้ร่วมมืออย่างดี ทุกฝ่ายก็จะได้รับความพอใจนี้ด้วย ก็ขอให้ทุกๆ ท่านได้ปฏิบัติงานในหน้าที่ทุกคนได้มีความสำเร็จ คือ งานประจำของท่านและงานของราชการปกครอง กิจการใด หรือสิ่งใดจะเป็นส่วนรวมหรือส่วนตัว ก็ขอให้มีความสำเร็จได้ประสบความเจริญรุ่งเรือง ได้ประสบความพอใจ และความสุขโดยทั่วกัน.
พระราชทานแก่ คณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ส่วนกลางคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด ผู้มีจิตศรัทธานักเรียนทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ และสื่อมวลชน